รีวิว Kill Heel (2022)

ซีรี่ย์ดราม่าสุดเข้มข้นเรื่องราวความโลภผลประโยชน์ในธุรกิจที่ต่างก็คาดหวังความสำเร็จ เมื่อยิ่งขึ้นสูงมากเท่าไหร่ ความอยากกระหายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เตรียมตัวปวดประสาทอีกครั้งกับซีรี่ย์ใหม่ Kill Heel (2022) การตีแผ่เรื่องราวธุรกิจโฮมชอปปิงที่กำลังซบเซา ในโลกที่การสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์กำลังเข้ามาแทนที่ ผ่านตัวละครผู้หญิงสามคนที่ต้องฟาดฟันกันเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ต่อไป 

เรื่องย่อ : เรื่องราวผ่านยุคที่บริการเดลิเวอรี่และการซื้อของออนไลน์เข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตของผู้คน ส่งผลให้ ยูนิ โฮมชอปปิง (UNI Home Shopping) บริษัทขายสินค้าผ่านรายการโทรทัศน์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตัวเลขยอดขายที่ลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน อูฮยอน (รับบทโดย คิมฮานึล) พิธีกรสาวที่เคยเป็นดาวรุ่งประจำรายการสินค้าแฟชั่น ชีวิตการทำงานของเธอที่เคยรุ่งโรจน์เมื่อสิบปีก่อนกำลังดิ่งลงเหว เมื่อมีดาวดวงใหม่อย่าง แบอ๊กซอน (รับบทโดย คิมซองรยอง) เข้ามาแทนที่

ในอดีตอูฮยอนเคยเป็นพิธีกรยอดเยี่ยมของยูนิ ไม่ว่าจะเสนอขายอะไรผู้ชมทางบ้านต่างกว้านซื้อจนสามารถทำยอดขายถล่มทลาย แต่ปัจจุบันเธอกลับเป็นดาวร่วงที่ถูกลดเกรดไปขายกระดาษชำระช่วงลดแลกแจกแถม พร้อมกับต้องแบกรับคำดูถูกจากเพื่อนร่วมงานและชีวิตครอบครัวที่เริ่มกระท่อนกระแท่น แม้จะหาลู่ทางย้ายไปบริษัทคู่แข่งแต่กลับถูกปฏิเสธอย่างหยาบคาย จึงเป็นเหตุผลให้เธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกลับไปยืนในจุดสูงสุดเช่นเดิม โดยมีผู้ช่วยคนสำคัญอย่าง กีโมรัน (รับบทโดย อีฮเยยอง) รองประธานกรรมการของบริษัทยูนิ หญิงสาวมาดอำมหิตที่มีเบื้องหลังบางอย่างเชื่อมโยงกับอดีตของอูฮยอน

ยืนพื้นด้วยพล็อตเรื่องแปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน กับการหยิบธุรกิจโฮมชอปปิงที่มีอยู่ทั่วโลกมาตีแผ่ให้เห็นเบื้องหลังอย่างเจาะลึก ทั้งรูปแบบการทำงาน โครงสร้างชนชั้น รวมทั้งการแก่งแย่งแข่งขันของพนักงานเพื่อตำแหน่งสูงสุด แม้เรื่องนี้จะเป็นผลงานเดบิวต์ของ นักเขียนบทอีชุนอู แต่สามารถทำให้หวนคิดถึงยุคสมัยที่สื่อโทรทัศน์เฟื่องฟูจนผู้ชมทางบ้านสามารถจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าผ่านการยกหูโทรกริ๊งเดียว นับเป็นก้าวแรกของธุรกิจค้าขายออนไลน์ก่อนสมาร์ตโฟนจะเข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตของเราด้วยซ้ำ

ยังคงยืนยันว่าซีรี่ย์เกาหลีแนวอาชีพไม่เคยแป๊ก ดังนั้นเมื่อเส้นเรื่องหลักแข็งแรงแล้ว Kill Heel ยังปรุงแต่งรสชาติให้แหลมคมขึ้นอีกด้วยสงครามจิตวิทยาของตัวละครผู้หญิงที่ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด เต็มไปด้วยปมที่อีรุงตุงนังตั้งแต่เปิดฉากชนิดที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย ข้อดีของซีรี่ย์ที่บทนำเป็นของนักแสดงรุ่นใหญ่นั่นคือการติดเครื่องให้ร้อนแล้วใส่เต็มแมกซ์ไม่มียั้ง ระเบิดอารมณ์สาดพลังจนไม่สามารถละสายตาได้เลย ยิ่งได้ ผู้กำกับโนโดชอล มือดีจากซีรี่ย์ Partner for Justice (2018-2019) มาคุมบังเหียนด้วยแล้ว ยิ่งมั่นใจได้เลยว่าไม่มีคำว่าธรรมดาแน่นอน ติดตามรับชม Kill Heel (2022) ดูที่นี่คลิ๊ก